วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Tourism Industry [บทที่4]

องค์ประกอบสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว


น้ำตกเอราวัณ


แหล่งท่องเที่ยว

   แหล่งท่องเที่ยวจัดเป็นปัจจัยที่สำคัญประการหนึ่งที่มีส่วนส่งเสริมอุตสาหกรรมกราท่องเที่ยวและเป็นปัจจัยที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาในประเทศ


   หากไร้ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวแล้ว คงไม่มีนักท่องเที่ยวอยากเดินทางเข้ามายังประเทศนั้น ๆ มีคำจำกัดความ 3 คำ ที่จำเป็นในการศึกษาแหล่งท่องเที่ยว ได้แก่

  1. ทรัพยากรทางการท่องเที่ยว
  2. จุดหมายปลายทาง
  3. สิ่งดึงดูดใจทางการท่องเที่ยว

ประเภทของแหล่งท่องเที่ยว

   อาจจัดแบ่งแหล่งท่องเที่ยวได้ด้วยลักษณะเฉพาะต่าง ๆ ได้แก่
  1. ขอบเขต   (จุดมุ่งหมายหลัก,จุดมุ่งหมายรอง)
  2. ความเป็นเจ้าของ   
  3. ความคงทนถาวร
  4. ศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยว
           - แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติ
           - แหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น
           - แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นศิลปวัฒนธรรม ประเพณี และกิจกรรมของผู้คนในท้องถิ่น





ดอยกาดผี จ.เชียงราย

แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติ

     สถานที่ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติทั้งทางด้านชีวภาพ และกายภาพ รวมทั้งบริเวณที่มนุษย์เข้าไปปรับปรุงแต่งเพิ่มเติมจากสภาพธรรมชาติในบางส่วน ซึ่งทรัพยากรประเภทนี้ไม่มีต้นทุนทางการผลิตแต่มีต้นทุนในด้านการดูแลรักษา อาทิ ภูเขา น้ำตก ทะเล หาดทราย ฯล





พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน

แหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น

     สถานที่ที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างและอายุ รวมทั้งรูปแบบสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันออกไป แต่ท้ายที่สุดก็กลายเป็นทรัพยากรที่มีค่าทางการท่องเที่ยวได้แก่ ศาสนสถาน โบราณสถาน โบราณวัตถุ และสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ





ประเพณีวันสงกรานต์


แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นศิลปวัฒนธรรม ประเพณี และกิจกรรมของผู้คนในท้องถิ่น

     เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่พัฒนามาจากวัฒนธรรม ประเพณี การดำรงชีวิตของผู้คน อาทิ แห่นางแมว บุญบั้งไฟ สงกรานต์ วิถีชีวิตของชุมชนชาวเขา ไร่นา สวนพืช ผักต่าง ๆ ฯล


แหล่งท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทย

ภาคกลาง
เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี





ภาคเหนือ
วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี จ.แพร่

พระธาตุช่อแฮ จ.แพร่





ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จ.ชัยภูมิ





ภาคตะวันออก
หาดนางรำ จ.ชลบุรี





ภาคใต้
อ่าวพังงา

  



อ้างอิง

เอกสารคำสอนวิชา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว HT201

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์




อ้างอิงรูปภาพ

http://travel.kapook.com/view6580.html
http://travel.kapook.com/view13783.html
http://travel.kapook.com/view14384.html
http://www.oknation.net/blog/klunpang/2009/04/09/entry-2
http://hilight.kapook.com/view/34788
http://travel.kapook.com/view15128.html
http://travel.kapook.com/view15789.html
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=modlek&month=15-08-2009&group=3&gblog=45
http://travel.kapook.com/view4453.html
http://leadership.exteen.com/20090613/entry


Tourism Industry [บทที่3]

ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเดินทางนักท่องเที่ยว


แรงจูงใจ 


แสดงลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์ (Maslow)

 
  • ทฤษฎีต่าง ๆ เกี่ยวกับแรงจูงใจของนักท่องเที่ยว 
        -ความต้องการความสำเร็จแห่งตน
        -ความต้องการที่จะมีเกียติยศชื่อเสียง
        -ความต้องการทางด้านสังคม
        -ความต้องการความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต
        -ความต้องการทางด้านสรีรวิทยา 



  • ทฤษฎีขั้นบันไดแห่งการเดินทาง 
        -ความต้องการที่จะได้รับความพึงพอใจอย่างสูงสุด
        -ความต้องการความภาคภูมิใจและการพัฒนาตนเอง
        -ความต้องการสร้างสัมพันธภาพ
        -ความต้องการความปลอดภัยมั่นคง
        -ความต้องการที่จะได้รับความพึงพอใจอย่างสูงสุด


  • แรงจูงใจวาระซ่อนเร้น 
        -การหลีกหนีจากสภาพแวดล้อมที่จำเจ
       - การสำรวจและการการประเมินตนเอง
        -การพักผ่อน
        -ความต้องการเกียรติภูมิ
        -ความต้องการที่จะถอยกลับไปสู่สภาพดั้งเดิม
        -กระชับความสัมพันธ์ทางเครือญาติ
        -การเสริมสร้างการปะทะสังสรรค์ทางสังคม 





  • แรงจูงในทางท่องเที่ยวในทัศนะของ Swarbrooke
        -แรงจูงใจทางด้านสรีระหรือทางกายภาพ
        -แรงจูงใจทางด้านวัฒนธรรม
        -การท่องเที่ยวเพื่อตอบสนองอารมณ์ความรู้สึกบางอย่าง
        -การท่องเที่ยวเพื่อให้ได้มาเพื่อสถานภาพ
        -แรงจูงใจในการพัฒนาตนเอง
        -แรงจูงใจส่วนบุคคล


แนวโน้มของแรงจูงใจของนักท่องเที่ยว

ได้นำเสนอแรงจูงใจของนักท่องเที่ยว 10 ประการตังต่อไปนี้

1. แรงจูงใจที่จะได้สัมผัสสิ่งแวดล้อม 
2. แรงจูงใจที่จะได้พบปะกันกับคนในท้องถิ่น
3. แรงจูงใจที่จะที่จะเข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่นและประเทศเจ้าบ้าน
4. แรงจูงใจที่จะเสริมสร้างสัมพันธภาพภายในครอบครัว
5. แรงจูงใจที่จะได้พักผ่อนในสภาพแวดล้อมที่น่าสบาย
6. แรงจูงใจที่จะที่ได้ทำกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวสนใจและฝึกทักษะ
7. แรงจูงใจที่จะมีสุขภาพดี
8. แรงจูงใจที่จะได้รับการคุ้มกันและความปลอดภัย
9. แรงจูงใจที่จะได้รับการยอมรับนับถือและได้รับสถานภาพทางสังคม
10. แรงจูงใจที่จะให้รางวัลแก่ตัวเอง



ตัวอย่างการวิจัยที่ใช้วิธีการศึกษาจากกลุ่มเป้าหมาย




     นักเดินทางประเภทแบกเป้ (Backpackers) นักเดินทางแบบนี้กำลังเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ ในออสเตรเลีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และนิวซีแลนด์ แรงจูงใจที่ทำให้เกิดการเดินทางในลักษณะนี้อาจสรุปได้เป็น 4 มิติด้วยกันดังต่อไปนี้

  1. การหลีกหนี
  2. การมุ่งเน้นในเรื่องสิ่งแวดล้อม
  3. การทำงาน
  4. เน้นการคบหาสมาคม
    
โครงสร้างพื้นฐานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว


     หมายถึง องค์ประกอบพื้นฐานในการรองรับระบบการท่องเที่ยวทั้งระบบ ถือเป็นส่วนสนับสนุนให้การท่องเที่ยวสามารดำเนินไปได้ด้วยดี และทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็วในการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว

โครงสร้างพื้นฐานหลัก ๆ ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ได้แก่

  1. ระบบไฟฟ้า
  2. ระบบประปา
  3. ระบบสื่อสารโทรคมนาคม
  4. ระบบการขนส่ง (ทางอากาศ,ทางบก,ทางน้ำ)
  5. ระบบสาธารณสุข


ปัจจัยที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาค

     ปัจจัยทางภูมิศาสตร์และปัจจัยทางวัฒนธรรมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยดึงดูดและผลักดันให้นักท่องเที่ยวแต่ละคนเดินทางออกจากแหล่งที่ตนเองอาศัยอยู่


ปัจจัยทางภูมิศาสตร์


     เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และเป็นปัจจัยที่สำคัญในการสร้างสรรค์ภูมิทัศน์ที่เป็นสิ่งดึงดูดในทางการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก ซึ่งปัจจัยสำคัญเหล่านี้ ได้แก่


  • ลักษณะทางภูมิศาสตร์
  • ลักษณะทางภูมิอากาศ



ปัจจัยทางวัฒนธรรม


     วิถีการดำเนินชีวิตของคนในสังคม นับตั้งแต่วิธีกินอยู่ วิธีอยู่ วิธีการแต่งกาย วิธีทำงาน วิธีพักผ่อน วิธีแสดงอารมณ์ วิธีสื่อความ วิธีจราจรและขนส่ง วิธีอยู่ร่วมกันอย่างเป็นหมู่คณะ วิธีแสดงความสุขทางใจ และหลักเกณฑ์การดำเนินชีวิต






อ้างอิง

เอกสารคำสอนวิชา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว HT201
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์



อ้างอิงรูปภาพ

http://rayong.kapook.com/00013/
http://www.vcharkarn.com/vblog/16268/6/n/67447/1
http://travel.kapook.com/view2940.html
http://web.chiangrai.net/tourcr/type_tour/cultural.php
http://www.wasi.or.th/wasi/index.php?page=link_p&select_page=1&group_=03&code=02&idHot_new=15
http://www.thaionlinemarket.com/picproduct/7-103/thumbnailshow259817.jpg
http://littlegeog26.blogspot.com/2009/12/blog-post_16.html
http://www.maipaimairoo.com/?p=1285



 

วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Tourism Industry [บทที่2]

ประวัติศาสตร์การท่องเที่ยว
จากยุคเริ่มต้นถึงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่2


เมืองบาธ

ในสมัยอาณาจักรโรมันการท่องเที่ยวมีทั้ง การท่องเที่ยวภายในประเทศและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ แต่การท่องเที่ยวระหว่างประเทศนั้นเป็นการท่องเที่ยวที่ไร้พรมแดน เพราะไม่มีอาณาเขตแบ่งแยกดินแดนว่าเป็นดินแดนของอังกฤษ หรือซีเรีย อย่างปัจจุบัน เพราะอาณาจักรโรมันครอบคลุมไปถึงหมด ทุกแห่งใช้เงินตราของโรมัน ท้องทะเลปลอดจากโจรสลัด เพราะมีการลาดตระเวนของทหารโรมัน ภาษาละตินก็เป็นภาษาที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในยุคนั้น ชาวโรมันเดินทางไปยัง Sicily, กรีซ เกาะ Rhodes เมืองทรอย และอิยิปต์ และเมื่อถึงศตวรรษที่3 ชาวโรมันก็ได้เดินทางไปจนถึงดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ (The Holy Land)

 

เมืองบาธ เมืองที่มีสถาปัตยกรรมแบบโรมัน เก่าแก่ และ สวยงาม

 

 

มัคคุเทศก์และคู่มือนำเที่ยวในยุคต้นๆ

 

    ความรู้ที่เรามีเกี่ยวกับการเดินทางในสมัยแรก ๆ มาจากข้อเขียนนักประวัติศาสตร์ และนักเดินทางที่มีความสำคัญที่มีชื่อว่า Herodotus ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วง 484 ปี ถึง 424 ปีก่อนคริสตกาล อาจเรียกได้ว่าเป็นนักเขียนเกี่ยวกับการท่องเที่ยวคนแรกของโลกก็ว่าได้ Herodotus ได้บันทึกคำบอกเล่าของเหล่ามัคคุเทศก์ในสมัยนั้นเกี่ยวกับเรื่องที่น่าเหลือเชื่อต่าง ๆ

       มัคคุเทศก์ในสมัยก่อนคริสตกาลอาจแบ่งออกได้เป็น 2 พวกด้วยกัน 

พวกแรก คือ พวกที่เรียกว่า Periegetai มีหน้าที่คอยต้อนฝูงนักท่องเที่ยวให้เข้ากลุ่ม ส่วนอีกพวกหนึ่งเรียกว่า Exegetai เป็นพวกที่ให้ข้อมูลเพื่อแลกเปลี่ยนกับเงินค่าตอบแทน มัคคุเทศก์เหล่านี้มักจะถ่ายทอดข้อมูลที่ไม่เป็นจริงแก่นักท่องเที่ยว

     หนังสือคู่มือนำเที่ยวปรากฎขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ 400 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเอเธนส์ สปาร์ตา และเมืองทรอย นักเขียนเกี่ยวกับการท่องเที่ยวชาวกรีก ชื่อ Pausanias ได้เขียนหนังสือชื่อ Description of Greece ขึ้นในระหว่าง คศ. 160-180 

 

 
Colosseum in Rome


 การท่องเที่ยวยุคกลาง

     ยุคกลางคือช่วงที่อยู่ระหว่าง คศ. 500-1500 เป็นช่วงต่อจากการล่มสลายของโรมัน แต่ก่อนจะเข้าสู่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ยุคกลางเรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า ยุคมืด  
  • เป็นช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ ศาสนาเข้ามามีบทบาทในการกำหนดดำเนินชีวิตของผู้คน
  • วันหยุด เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
  • คนชั้นกลางและชั้นสูงนิยมเดินทางเพื่อแสวงบุญ ในระยะทางไกลและเมืองต่าง ๆ


ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ

  • เกิดการพัฒนาทางการค้า
  • ผู้คนเริ่มใฝ่รู้เกี่ยวกับเรื่องของยุโรปสมัยก่อน โดยเฉพาะชาวอังกฤษที่ร่ำรวย นิยมส่งบุตรบุตรชายออกเดินทางไปต่างประเทศพร้อมกับผู้สอนประจำตัว เป็นระยะเวลา 3 ปี เรียกว่า              "แกรนด์ทัวร์" โดยมีจุดมุ่งหมายที่ประเทศ อิตาลี